ปรมาจารย์ลัทธิมาร ซีรี่ย์จีนที่คุณควรดู

ปรมาจารย์ลัทธิมาร

ซีรี่ย์จีน ปรมาจารณ์ลัทธิมาร ดำเนินเรื่องของตัวละครคู่ ที่เล่าเรื่องราวของ เว่ยอิง ที่แสดงโดย เซียวจ้าน จากตระกูลเจียง แห่ง อวิ๋นเมิ่ง ชายหนุ่มรูปงาม ยอดอัจฉริยะและจิตใจดี กับ หลานจ้าน หรือ หลานวั่งจี ที่แสดงโดย หวังอี้ป๋อ  จากตระกูลหลาน แห่ง กูซู หนุ่มรูปงามที่แสนเย็นชาและเคร่งครัดกฎระเบียบ เป็นคู่หูตระกูลเซียน ที่มีปณิธานเดียวกันตั้งแต่รุ่นหนุ่มคือ “กำจัดคนชั่ว ช่วยเหลือผู้อ่อนแอ ”

ปรมาจารย์ลัทธิมาร

ความงามของปรมาจารย์ลัทธิมาร

การนำนิยายมาทำเป็นละครโทรทัศน์ แน่นอนว่าการเขียนบทให้ถ่ายทอดออกมาได้กินใจผู้ชมและไม่กระทบกับบทประพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าละครเรื่องนั้นนำมาจากนิยาย Boy Love ที่โด่งดัง มิหนำซ้ำประเทศผู้ผลิตยังไม่เปิดกว้างให้ทำออกมาอย่างเสรี บทที่เขียนออกมาจึงมีการบิดบทประพันธ์ให้เป็นไปในทางท่องยุทธจักรของสองเพื่อนซี้ มีการตัดทอนความเป็น Y ออกไปและแทนที่ด้วยมิตรภาพแน่นแฟ้น แบบฉบับลูกผู้ชายที่เพียงมองตาก็รู้ใจ และข้อจำกัดที่ว่าก็นำไปถึงการสร้างงานศิลปะชั้นละเมียดด้านอื่น ๆ

เมื่อเราต้องอยู่ในกรอบเราก็ต้องสวยที่สุด เหมือนภาพวาดสวยงามที่ศิลปินสร้างขึ้นจริงไหมคะ บทจึงมีการปูความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ นำเสนอมุมมองความรักในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวของแต่ละตระกูล มิตรภาพที่เป็นรักแท้แบบไม่มีอะไรกั้น (แต่ไม่หยุด) ของเว่ยอิงและหลานจ้านที่ต่างคนต่างเชื่อในความดีซึ่งกันและกัน โดยยึดถือคุณธรรมเป็นหลักและไม่ทรยศต่อตนเอง นอกจากนี้ยังผูกปมต่าง ๆ ได้แน่นขนัด ดราม่ากันกระจัดกระจายน้ำตาท่วมจอ ตัวละครทุกตัวมีเหตุและผลของการกระทำที่เป็นไปได้ ไม่มีการกระทำของตัวละครตัวไหนไร้เหตุผล ทุกคนมีบทบาทความสำคัญที่จะโยงใยไปถึงเหตุอันน่าจะเป็นภายในเรื่อง ที่จะเปิดเผยที่มาที่ไปของตัวละครตัวอื่นในฉากต่อ ๆ ไป จนถึงกับเรียกได้ว่าเราจะข้ามซีนไหนไปไม่ได้เลย

ศิลปะแห่งการสื่อสาร

ชมจริงจังกับการถ่ายทอดในซีนต่าง ๆ ของผู้กำกับ การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางและแววตาของตัวละครอยู่ในขั้นละเมียด กลมกลืน เป็นศิลปะการนำเสนอที่หลีกเลี่ยงความ ซีรี่ย์วาย ไปอย่างไร้ข้อกังขา แปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพความรักระหว่างสหาย เล่นแร่แปรธาตุจาก ซีรี่ย์วาย กลายเป็นความสัมพันธ์ละมุนละม่อมจนเราเผลอยิ้มให้กับมิตรภาพที่อยู่ตรงหน้าบ่อย ๆ เป็นการใช้ภาษากายที่สุภาพและสื่อความหมายทางอ้อมได้อย่างไม่ขัดสายตา ติดใจมากกับฉากหลานจ้านบรรเลงกู่ฉินและเว่ยอิงเป่าขลุ่ย ช่วยกันสะกดวิญญาณดาบ สายตาที่ส่งให้กันมันซ่อนความหมายเอาไว้อย่างพรั่งพรู มีการซ่อนความหมายแฝงไว้อย่างมากมาย โดยใช้หลักความเชื่อ ประเพณี วัฒนธรรมของจีนโบราณในเชิงสัญลักษณ์ แบบให้คนดูเดาทางและตีความหมายแบบจิ้น ๆ กันเอาเองกับฉาก หลานจ้านจับไก่ ปีระกากับความเชื่อของชาวจีน

แฝงวัฒนธรรมจีนลงไปในซีรี่ย์

เรื่องนี้กล่าวถึงจีนโบราณ อุปโลกขึ้นมาให้เป็นยุคที่มีเซียนขี่กระบี่ เซียนในที่นี้คือคนที่ฝึกวิชาจนเป็นมนุษย์พิเศษที่สามารถปราบภูตผี เขียนยันต์ มีลมปราณขั้นสูงสุดที่เรียกว่า จินตาน ขับเคลื่อนพลังวิญญาณ ใช้กระบี่และเครื่องดนตรีคือ กู่ฉิน 7 สายและขลุ่ยในการต่อสู้ เป็นการนำความเชื่อเดิมของจีนโบราณที่เชื่อว่าการฟังหรือบรรเลง กู่ฉิน จะสามารถเข้าไปสัมผัสในส่วนจิตของผู้ฟัง มากกว่านั้นยังสามารถรักษาและทำลายได้แบบต่างกรรมต่างวาระ คือจะใช้มันเพื่ออะไรก็บิดไปได้ตามนิสัยซึ่งผู้บุกเบิกอาวุธระรื่นหูชนิดนี้คงหนีไม่พ้น จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง แห่ง สามก๊ก หากใครเคยอ่านวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลกชิ้นนี้จะจำได้ว่า ขงเบ้งก็ใช้กู่ฉินบรรเลงบนกำแพงเมืองเพื่อลวงสุมาอี้จนสำเร็จมาแล้ว ใน ซีรีส์จีน โบราณเรื่องอื่น ๆ อย่าง มังกรหยก ของ กิมย้ง เราจะเห็นฉินเป็นตัวทำลายล้างซะมากกว่า แต่ ปรมาจารย์ลัทธิมาร สามารถทำให้เราเห็นอีกด้านของฉินที่หลานจ้านบรรเลงบทเพลงชิงซิน (ชำระใจ) เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยหรือสงบจิต แม้กระทั้ง ขลุ่ย ที่เว่ยอิงใช้ ก็ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนถึงความเรียบง่ายของตัวละครตัวนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนออกสู่สายตาชาวโลกได้อย่างแยบยล

เพลงประกอบสุดเพราะ

เพลงประกอบภาพยนตร์ มักจะบอกเล่าเรื่องราวนั้น ๆ ให้ครอบคลุมเนื้อเรื่อง หรือเจาะเข้าไปกลางใจของตัวแสดงเอก แต่ปรมาจารย์ลัทธิมารทำให้เพลงประกอบมีความหมายลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะมีเพลง อู๋จี ที่เป็นเพลงหลักของเรื่องแล้ว ยังแยกย่อยเป็นเพลงประจำตัวละครที่อธิบายความรู้สึกภายในใจของตัวแสดงหลักทุกตัวเอาไว้อีกด้วย เรียกว่าดูซีรีส์จบแล้ว มาฟังเพลง แปลความหมายก็จะทำให้เราเข้าใจบริบทต่าง ๆ ของตัวละครได้มากขึ้นไปอีก ดูซีรีส์ว่าน้ำตาท่วมแล้ว ฟังเพลง อ่านความหมายก็ร้องไห้เหมือนหมามากกว่าเดิม

ความงดงามของตัวละคร

ซีรีส์เรื่องนี้แคสต์นักแสดงได้ถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักแสดงหลักอย่าง เซียวจ้าน ที่คาแร็กเตอร์ของ เว่ยอิง ทำให้นึกถึง เล่งฮู้ชง ใน กระบี่เย้ยยุทธจักร เอามาก ๆ เด็กกำพร้าที่ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน เก็บมาเลี้ยง ฉลาด ช่างพูด ชอบเฮฮา ร่ำสุราเป็นอาจิน ขึ้นมาเลยแล้วก็ไม่ทันจะขาดคำ เซียวจ้าน ก็ไปโผล่ในโฆษณาเกมกระบี่เย้ยยุทธจักรกันซะแล้ว ก็แสดงว่า ซีรีส์ เรื่องนี้อาจมีแรงบันดาลใจมาจากนิยายกำลังภายในของ กิมย้ง อยู่ไม่น้อย เพราะหลาย ๆ อย่างมันสะกิดต่อมให้นึกถึงอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งคาแร็กเตอร์ของ หลานจ้าน ที่ หวังอี้ป๋อ รับหน้าที่นี้ไป ก็ไปคล้ายกับ เซียวเหล่งนึ่ง สตรีที่งดงามปานเทพธิดา สงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ และเย็นชาราวน้ำแข็ง  จากมังกรหยก 

ปรมาจารย์ลัทธิมารจึงถือได้ว่าทำออกมาได้อย่างสวยงดงามเป็นอย่างมาก ที่สามารถทำให้แต่ละฉากที่แสดงออกมานั้นเกิดความรู้สึกอิ่มเอมกับความสุขเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานจากช่างฝีมือ