TENET ไขปริศนาทฤษฎีเวลา เมื่อเวลาเป็นแค่คำหลอก

TENET

TENET กลายเป็นหนังที่เกิดกระแสอย่างมาก เรื่องความสนุกตื่นเต้นเร้าใจนั้นไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าเป็นหนังแอ็กชั่นจัดเต็มเรื่องหนึ่ง มีฉากใหญ่ๆ ให้คนดูอิ่มเอม มีฉากระทึกหวือหวาให้ได้ดูทุกรูปแบบ แต่ส่วนที่มึนตึ้บสุดๆ กลับเป็นพล็อตว่าด้วย ‘เวลาที่ย้อนกลับ’ ในเรื่อง ส่งผลให้หนังเกิดเสียงวิจารณ์มากมาย

TENET คำคำนี้เป็นประโยคที่ตัวละครชื่อวิกเตอร์ มาร์ติน โดโนแวน หัวหน้าของพระเอกพูดกับเขาบนเรือก่อนจะรับภารกิจใหม่ว่า “ผมบอกคุณได้คำเดียว TENET” ซึ่งคำต่อสร้อยข้างหลังนี้ต่างหากที่สำคัญ “มันจะเปิดบานประตูที่ถูก และบานประตูที่ผิด” ถ้าสังเกตดีๆ คุณจะพบว่าไม่ว่าเราจะอ่าน TENET จากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย อีกนัยหนึ่งคืออ่านไปข้างหน้า และอ่านย้อนกลั) เราก็จะได้คำคำเดิม TENET คำนี้มีความหมายว่า ความเชื่อ หลักการทฤษฎี ข้อคิดเห็น

แต่ในหนังเรื่องนี้ ‘เรา’ หมายถึงตัวละครที่ถือปืนแทนคนดู ไม่ใช่คนที่ยิงกระสุนออกไปจากปืน แต่เราเป็นคนรับกระสุนเข้าสู่ปืนในมือต่างหาก! ฉะนั้นกุญแจที่วิกเตอร์ให้พระเอก(และคนดู) เอาไว้ก็คือคุณจะยึดความเชื่อเดิม (TENET ที่อ่านจากหน้าไปหลัง) หรือพยายามทำความเข้าใจความเชื่อใหม่ (TENET ที่อ่านจากหลังไปหน้า) เพราะเมื่อใดที่คุณเริ่มยอมรับและเข้าใจชุดความเชื่อใหม่นี้ คุณก็จะเข้าใจโลกของหนังที่พระเอกกำลังเดินหน้าพาเราเข้าไปพัวพันได้เร็วยิ่งขึ้น

แล้ว ‘นีล’ ใน TENET คือใคร? หนังทิ้งท้ายตัวละครให้เราพอเดาๆ ว่า เขาเคยเจอพระเอกมาก่อน และมีสถานะความสัมพันธ์เหมือนเจ้านาย-ลูกน้องกันมานาน ภารกิจนี้เป็นแค่ภารกิจหนึ่งที่นีลต้องทำเพื่อเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาต่อไปในอนาคต คำอธิบายอย่างง่ายที่สุดคือนีลมาจากอนาคต แต่นั่นอาจจะตามมาด้วยคำถามอีกมากมายว่าแล้วนีลปรากฎตัวในช่วงไคลแม๊กซ์สองแห่งในเวลาเดียวกันได้อย่างไร หนังบอกใบ้เราว่านอกจากนีลที่ขับรถช่วยดึงพระเอกขึ้นมาจากเหมืองใต้ดิน ยังมีนีลอีกคนที่เข้าไปช่วยพระเอกในเหมืองในจังหวะคาบลูกคาบดอก

เป็นไปได้ว่า นีลที่เราเห็นในไคลแม็กซ์มีทั้งนีลที่เดินอยู่บนเส้นเวลาปัจจุบัน (ปัจจุบันของเหตุการณ์) กับนีลที่เดินย้อนกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ตั้งแต่แรก ให้ลองนึกเทียบกับฉากในโรงเก็บของในสนามบินที่ตัวละครพระเอกพบความจริงว่าชายลึกลับในชุดคอมมานโดนั้นคือใคร ก็อาจจะอธิบายการปรากฎตัวสองที่ในห้วงเวลาเดียวกันของนีลได้ เพราะเขาเดินอยู่บนคนละเส้นเวลากัน